เริ่มต้นรู้จักภาษาญี่ปุ่นกันเถอะ

อาจารย์ที่เคารพยิ่งท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า การเรียนรุ้คือสิ่งที่ไม่สิ้นสุด ถ้าคนที่หยุดเรียนรู้เปรียบเหมือนคนตาย คำนี้ผมเชื่อว่ายังคงใช้ได้เสมอกับทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งหนึ่งที่น่าเรียนรู้ผมอยากแนะนำคือ ภาษาญี่ปุ่นสำหรับผู้ที่เริ่มสนใจเรียนภาษาญี่ปุ่น จะอธิบายภาพรวมของภาษาให้ฟังคร่าวๆก่อนนะครับจะได้มองเห็นภาพรวมกัน ไม่ได้ยากอย่างที่คิด โดยจะเริ่มจาก

1.ตัวอักษร ตัวอักษรญี่ปุ่นมีโดยหลักทั้งหมด 46 ตัว  แบ่งออกตามการเขียนได้ 2 ชนิด คือ

1.1 อักษรฮิรากานะ  

あ い う え お

か き く け こ   

さ し す せ そ   

た ち つ て と   

な に ぬ ね の

は ひ ふ へ ほ    

ま み む め も

や   ゆ   よ

ら り る れ ろ

わ   を   ん

1.2 อักษรคาตาคานะ

ア イ ウ エ ォ

ヵ キ ク ケ コ

サ シ ス セ ソ

タ 千 ツ テ ト

ナ 二 ヌ ネ ノ

ハ ヒ フ へ ホ

マ ミ ム メ モ

ヤ  ユ  ヨ

ラ リ ル レ ロ

ワ  ヲ  ン

1.3 อักษรโรมันจิ เป็นอักษรที่เพิ่มเติมเข้ามาโดยเทียบเสียงจากอักษรภาษาอังกฤษ เพื่อความสะดวกในการอ่านและจำเสียง เช่น A (อะ) , I (อิ) , U (อุ) , E (เอะ)  , O (โอะ) เป็นต้น

อักษรทุกตัวเป็นพื้นฐานของกาเรียนเพื่อนำไปผสมคำในระดับถัดไปเพื่อกลายเป็นคำศัพท์

เทคนิค คือพยายามจำอักษรแต่ละตัวให้ได้ขึ้นใจ เขียนอย่างไร อ่านอย่างไร แนะนำว่าให้ท่องและเขียนไปด้วย  เมื่อพื้นฐานแน่น การเรียนขั้นต่อไปจะง่าย

2.ตัวคันจิ เช่น 私、風、川 เป็นต้น เล่ากันว่าตัวคันจิได้รับอิทธิพลมาจากตัวคันจิของภาษาจีน แต่เมื่อดูเทียบกันแล้วก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เอาเป็นว่าตัวคันจิเป็นตัวอักษรที่เขียนหรือเค้าโครงรูปแบบมาจากธรรมชาติ เช่น คำว่าภูเขา จะมีลักษณะโค้งสูงๆคล้ายกับภูเขา(山)  ส่วนคำว่าฝน (雨)ก็จะมีลักษระคล้ายเม็ดฝนอยู่ด้วย ซึ่งตัวคันจิจะมีความหมายเฉพาะตัวของมัน บางที่คำอ่านของออกเสียงเหมือนกันแต่พอดูคันจิแล้วรู้เลยว่าหมายถึงอะไร เช่น อะเมะ 雨=ฝน, อะเมะ飴=ลูกอม เป็นต้น ดังนั้นบางทีหากเราเข้าใจในความหมายของตัวคันจิแล้วเราก็จะเข้าใจของความหมายคำนั้นโดยปริยายครับ ซึ่งคำอ่านของคันจิแต่ละตัวนั้นสามารถอ่านได้ 2 เสียง คือ เสียง องโยมิ(音読み) กับ คุงโยมิ(訓読み) ส่วนเหตุผลนั้นค่อนข้างลงลึกพอสมควรจะอธิบายในบทความต่อไปครับ

เทคนิค ของการจำคันจินั้น แนะนำว่าให้ท่องและเขียนไปได้วย ยิ่งอายุยังน้อยจะเข้าสมองได้เร็ว

2.สระ  สระของภาษาญี่ปุ่นโดยหลักจะมีอยู่ 4 เสียง คือ อะ อิ  อุ  เอะ โอะ และเมื่อนำไปผสมเสียงกับอักษรบางตัวแล้วก็จะได้เพิ่มมาอีกเป็น สระเอีย สระอิว ได้อีกตามแต่เมื่อเทียบกับสระในภาษาไทยแล้วน้อยมา จำง่ายไหมล่ะครับ

3. รูปประโยค (ไวยากรณ์)  ก็เหมือนกับภาษาอื่นๆทั่วไป จะมีรูปแบบที่กำหนดอยู่แล้ว ว่าถ้าต้องการพูดแบบนี้ ต้องใช้รูปแบบนี้ ขอแค่ให้เราจำรูปประโยคได้ ก็พูดได้แล้ว อีกอย่างที่จำเป็นคือ คำศัพท์ ถือว่าเป็นหัวใจของเรียนภาษาก็ว่าได้ หากเราได้คำศัพท์ก็จะประติดประต่อเข้าใจความหมายได้  แต่การเรียนก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอน ดังนั้นปัจจุบันทางญี่ปุ่นจึงได้กำหนดขั้นระดับในการเรียนไว้ โดยเริ่มจากระดับน้อยสุด ไปหายากสุด เพื่อจำกัดคำศัพท์ ไวยากรณ์ คันจิ ในการเรียนรู้ของแต่ละระดับไว้ โดยแบ่งเป็น

ระดับ JLPT N5   ระดับเริ่มต้น

อ่านเขียนอักษรฮิรากานะ คาตาคานะและคันจิพื้นฐานทั่วไป เข้าใจประโยคพื้นฐานได้ในระดับหนึ่ง

ระดับ JLPT N4   ระดับต้นสู่กลาง

อ่านประโยคคันจิพื้นฐาน เข้าใจเนื้อหาคำถามในชีวิตประจำวันพื้นฐานได้

ระดับ JLPT N3   ระดับกลาง

อ่านจับใจความ เข้าใจความหมายของประโยค อ่านพาดหัวหนังสือพิมพ์ได้ เป็นต้น

ระดับ JLPT N2   ระดับกลางสู่สูง

อ่านหนังสือพิมพ์หรือเข้าใจบทสนทนา ข่าว เรื่องที่ได้ยิน จับใจความสำคัญในขอบเขตที่กว้างได้

ระดับ JLPT N1   ระดับสูง

การพูดฟังอ่านเขียนได้ระดับคนญี่ปุ่นปกติ

ซึ่งทุกปี ปีละ2ครั้ง (ประมาณเดือนกรกฏาคม กับ เดือนธันวาคม) ของทุกปีจะมีกการสอบวัดระดับความสามารถภาษาญี่ปุ่น หรือเรียกว่า JLPT TEST ถ้าสอบผ่านจะได้รับใบรับรองความสามารถภาษาญี่ปุ่น สามารถใช้อ้างอิงกับงานด้านต่างๆได้เยอะแยะเลย ตัวผมเองตอนไปสอบทุกปีจะพบว่ามีเด็กๆรุ่นใหม่ให้ความสนใจเรียนไปสอบเยอะมากขึ้น อาจะเป็นเพราะโรงเรียนได้บรรจุหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นนี้เข้าไปด้วย แต่อย่างไรก็ดี สำหรับบุคคลที่มีความสนใจก็สามารถค้นหาเรียนเพิ่มเติมได้ มีวีดีโอหรือเว็ปไซด์ที่ทำสอนเยอะมากขึ้น ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีกว่าสมัยก่อน

https://pixabay.com/photos/samurai-silhouette-art-lone-warrior-2258604/

ทั้งนี้ การเรียนภาษาทุกภาษา จะประสบความสำเร็จได้ จำเป็นต้องมีวินัยในการเรียน สิ่งที่ยากที่สุดคือการต่อสู้กับตัวเองนี่แหล่ะ สิ่งไหนที่เราทำเป็นประจำทุกวัน สิ่งนั้นจะกลายเป็นนิสัยของเรา ขอให้คนที่มีความสนใจทุกคนพยายามตั้งใจนะครับ  ณ ปัจจุบันนี้ หรือในอนาคตก็ดี ภาษาที่สามยังมีความสำคัญเสมอ ถ้าเกิดย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะตั้งใจเรียนภาษาที่สาม ภาษาอะไรก็ได้ให้ดี จนสามารถใช้งานได้ ตั้งแต่ตอนที่เป็นเด็กเลย เพราะตอนนี้ได้เจอประสบการณ์มาเยอะ แต่ก็ย้อนกลับไปทำไม่ได้ จีงต้องเพิ่มเติมตั้งแต่วันนี้ และอยากนำสิ่งที่ดีดีมาบอกต่อ

อักษรฮิราคานะ

อะ                อิ                 อุ                 เอะ               โอะ

あ              い              う          え              お              แถว อ

คะ                คิ                 คุ                 เคะ               โคะ

か              き              く              け              こ              แถว ค

สะ                ชิ                 สุ                 เสะ               โสะ

さ              し              す               せ              そ              แถว ส

ทะ               จิ                 ทสึ               เทะ              โทะ

た              ち              つ               て              と              แถว ท

นะ               นิ                 นุ                 เนะ              โนะ

な              に              ぬ              ね              の              แถว น

ฮะ                ฮิ                 ฟุ                 เฮะ               โอะ

は              ひ              ふ              へ              ほ              แถว ฮ

มะ               มิ                 มุ                 เมะ              โมะ

ま              み              む              め              も              แถว ม

ยะ                                   ยุ                                     โยะ

や                                  ゆ                                  よ              แถว ย

ระ                ริ                  รุ                  เระ               โระ

ら              り              る              れ              ろ             แถว ร

วะ                                   โวะ                                  อึน

わ                                  を                                  ん

อักษรคาตาคานะ

ア              イ              ウ              エ              オ              แถว อ

カ              キ              ク              ケ              コ              แถว ค

サ              シ              ス              セ              ソ              แถว ส

タ              チ              ツ              テ              ト              แถว ท

ナ              ニ              ヌ              ネ              ノ              แถว น

ハ              ヒ              フ              ヘ              ホ              แถว ฮ

マ              ミ              ム              メ              モ              แถว ม

ヤ                                  ユ                                  ヨ           แถว ย

ラ              リ              ル              レ              ロ              แถว ร

ワ                                  ヲ                                  ン             

อักษรคาตาคานะ ส่วนใหญ่จะใช้เขียนคำศัพท์ที่เป็นคำศัพท์ต่างประเทศ เช่น

Soccer = サッカー

Computer = コンピューター  เป็นต้น

และมีอักษรอยู่บางแถวทั้งแบบฮิราคานะและแบบคาตาคานะ ที่นำมาเติม ตัวพิเศษ คือ 〃(เท็นเท็น)、゜(มารุ)แล้วจะเป็นเสียงอักษรใหม่ คือ

が              ぎ              ぐ              げ              ご              แถว ก

ざ              じ              ず              ぜ              ぞ              แถว ซ

だ              ぢ              づ              で              ど              แถว ด

ば              び              ぶ              べ              ぼ              แถว บ

ぱ              ぴ              ぷ              ぺ              ぽ              แถว ป

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น