อะโวคาโด นับว่าเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยสูง อุดมด้วยวิตามินต่างๆเช่น วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี รวมถึงแร่ธาตุต่างๆที่มีประโยชน์กับร่างกาย
อะโวคาโด พื้นเพเป็นผลไม้ในแถบกึ่งเขตร้อน ถิ่นกำเหนิดแถบอเมริกา แล้วแพร่ขยายนำเข้ามาปลูกในไทย
อะโวคาโด ลักษณะเป็นไม้ยืนต้น ผลเดี่ยวเท่ากำปั้นมือ ผิวขรุขระ จะเก็บเกี่ยวขณะที่ยังเปลือกเขียวอยู่ เมื่อสุกพร้อมกินได้เปลือกจะนิ่ม แสดงว่าพร้อมรับประทาน
อะโวคาโด ปัจจุบันมีหลายสายพันธุ์ให้เลือกชิมกัน และมีการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่อีกด้วย โดยแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีลักษณะคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป โดยพันธุ์ที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับ อาทิเช่น
- พันธุ์แฮส
- พันธุ์ปีเตอร์สัน
- พันธุ์บูธ 7
การขยายพันธุ์อะโวคาโด สามารถทำขยายพันธุ์ได้หลายวิธี ทั้งวิธี การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง การทาบกิ่ง การเสียบยอด เป็นต้น
การเพาะเมล็ด เป็นวิธีเดียวที่ส่งผลอาจทำให้เกิดการกลายพันธุ์ คือ กลายไปจากพันธุ์เดิม อาจจะดีขึ้น หรือกลายเป็นแย่ลงกว่าเดิมก็เป็นไปได้ อีกทั้งยังอาจะให้ผลผลิตช้ากว่าวิธีการอื่นๆอีกด้วย
แต่ถึงอย่างไรก็ดี หลังจากการซื้อผลอะโวคาโดมารับประทาน จะเหลือเม็ด เราสามารถเพาะเม็ดนี้เป็นต้นพันธุ์สำหรบเสียบอด หรือทาบกิ่งพันธุ์ที่เราต้องการในอนาคตได้
ดังนั้นจึงจะแนะนำวิธีการเพาะเมล็ดอะโวคาโดกัน ซึ่งขอแยกเป็น 2 วิธี คือ เพาะด้วยน้ำ กับเพาะด้วยดิน
1.เพาะด้วยน้ำ เตรียมน้ำใส่ภาชนะที่มีขนาดใหญ่กว่าเม็ดอะโวคาโดเล็กน้อย เอาไม้จิ้มฟันเสียบด้านข้างรอบสี่ด้าน บริเวณครึ่งลูก วงค้างบนปากภาชนะ ใส่น้ำให้ได้ระดับครึ่งเม็ด ประมาณ 6-8สัปดาห์ รากจะเริ่มงอกรากและแทงยอด หมั่นดูน้ำ ถ้าน้ำลดให้เติมใส่ให้ได้ระดับ ถ้าน้ำเริ่มเสียมีกลิ่นให้เปลี่ยนน้ำใหม่
2.เพาะด้วยดิน เตรียมดินปลูก กากมะพร้าว ใส่ภาชนะ เช่น กระถางปลูก เอาเม็ดใส่กลบดินครึ่งเม็ด รดน้ำให้ช่ำ ประมาณ 6-8 สัปดาห์นะงอกรากแทงยอด