เพาะมะม่วงหิมพานต์

มะม่วงหิมพานต์ในสมัยอดีต ตอนเป็นเด็กจำได้ว่ามีต้นมะม่วงหิมพานต์อยู่เยอะ ตามโรงเรียน ตามข้างทาง เป็นต้น เมื่อสุกผลก็จะตกลงมาพื้นดิน เละเน่าทิ้งก็ไปก็เยอะ รสชาติก็ถือว่าอร่อยหวานชื่นใจ ใช้ได้เลยทีเดียว ทุกวันนี้ยอมรับเลยว่าค่อนข้างจะหาต้นมะม่วงหิมพานต์ตามหมูบ้าน ชุมชนได้ยากแล้ว ถูกตัดทิ้งไปเยอะ ส่วนใหญ่จะปลูกในส่วนเพื่อเป็นภาคอุตสาหกรรมกัน ซึ่งผลของมะม่วงหิมพานต์ จะมีทั้งผลแท้และผลเทียม ส่วนที่คล้ายกับเมล็ดแข็งที่อยู่ห้อยอยู่กับเนื้อนั้นคือ ผลแท้ เอาไปแกะเปลือกแข็งออกจะได้เม็ดเนื้อด้านใน เอาไปตากแดด ทอดกรอบหอมมันอร่อยทีเดียว และส่วนที่เห็นเป็นเนื้อคล้ายชมพู่นั้นคือผลเทียม และยังมียอดดอื่นของต้นมะม่วงหิมพานต์ที่สามารถเด็ดไปกินแกล้มได้ครับ เช่น แกล้มลาบ ก้อย เป็นต้น ทางด้านโภชนาการเม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็ไม่ไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่นเลยที่เดียว เช่น ช่วยสร้างเลือด และป้องกันมะเร็ง เนื่องจากเม็ดมะมวงหิมพานต์มีทองแดงและเหล็กอยู่มาก ช่วยลดและควบคุมความดัน เพราะมีโพแทสเซียมและแมกนีเซียมอยู่เยอะ ช่วยต่อสู้กับไมเกรน และป้องกันการเกิดนิ่ว เป็นต้น เห็นไหมละว่าประโยชน์เยอะขนาดนี้ น่าจะปลูกไว้ทานเล่นสัก 2-3 ต้นก็ดีนะ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการเพาะเมล็ดกัน เนื่องจากเพาะง่าย อัตราการเกิดสูง วิธีเพาะง่ายนิดเดียว ทำตามวิธีต่อไปนี้ ประมาณ 2 สัปดาห์เกิดแน่นอน

1.แช่เม็ดพันธุ์มะม่วงหิมพานต์ 1 คืน(เนื่องจากเปลือกแข็งแช่ให้เร่งการงอกราก)

2.เตรียมดิน นำเม็ดมะม่วงหิมพานต์เสียบลงดิน โดยเอาด้านงุ้มลงล่าง(เข้าหาดิน)

เม็ดมะม่วงหิมพานต์
เอาด้านเว้าลงล่าง(ลงดิน)

3.เอาดินกลบบนเม็ดนิดหน่อย แต่ไม่ต้องท่วมมิด ให้เห็นหลังเม็ดนิดหน่อยก็ได้

กลบดินให้เห็นเม็ดนิดหน่อย ไม่ต้องกลบมิด

4.รดน้ำให้ชุ่ม แต่ไม่ต้องแฉะมา ประมาณ 2 สัปดาห์จะแทงรากเกิดยอดขึ้นมา

5.จากนั้นดูแลอีกประมาณ 3-4 สัปดาห์เอาลงดินปลูกได้เลย เพราะต้นโตเร็วมาก

ต้นโตเร็วมาก

นำวิธีการไปปลูกไว้ทานเล่นกันนะครับ พี่น้องทุกท่าน

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น