สำหรับพื้นที่การเกษตรที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ เช่น ปลูกมันสำปะหลัง สวนยางพาราที่ยังเล็กหรือพืชชนิดอื่น ในฤดูแล้งนั้นพืชจำเป็นต้องได้รับน้ำเพื่ออยู่รอดหรือเป็นการเพิ่มผลผลิต เกษตรกรจำเป็นต้องหาแหล่งน้ำมาเกษตรกรที่มีแหล่งน้ำสระน้ำ หนองน้ำอยู่แล้ว พลังงานโซลาร์เซลล์ปั๊มชักจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
ซึ่งข้อดีของปั๊มชัก คือ
1.ระยะส่งน้ำได้ไกล ปัํมชักขนาด 1 นิ้ว แนวราบหรือเอียงสูงนิดหน่อย ส่งได้ไกลมากกว่า 100เมตรเลยทีเดียว(ทั้งนี้สัมพันธ์กับขนาดมอเตอร์ที่ใช้งานด้วย) หากใช้นานไปซีลยางอาจสึกหรอตามการใช้งานก็เปลี่ยนใหม่ได้สะดวก 2.ทนทาน ผลิตจากเหล็กหล่อ โครงสร้างปั๊มชักไม่ซับซ้อน เพียงเติมน้ำมันเครื่องหล่อลื่นให้ก็ทำงานเลย ไม่จำเป็นต้องดูแลรักษามาก 3.ขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายสะดวก จะติดตั้งถาวรหรือทำแบบเคลื่อนย้ายได้ก็เหมาะสม 4.ระยะดูดได้ลึกพอสมควร ควรติดตั้งตัวปั๊มให้ใกล้แหล่งน้ำมากที่สุด แต่ทั้งนี้ความสามารถในการดูดโดยปกตินั้นก็ได้ประมาณ 10 เมตร ไม่ถือว่าน้อยเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ต้องเช็คให้ดีว่าทางขาเข้าต้องไม่มีอากาศรั่วเข้า จะทำให้กำลังดูดเต็มประสิทธิภาพ
ขนาดปั๊มชักที่ใช้กันทั่วไป คือ ขนาด 1 นิ้ว(เข้า-ออก 1 นิ้ว) และขนาด 2 นิ้ว (เข้า-ออก 2 นิ้ว) การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่จะนำไปใช้ เช่น ปริมาณน้ำที่ต้องการ ขนาดพื้นที่ เป็นต้น แต่ทั้งนี้สิ่งที่ต้องคำถึงอีกอย่าง คือ มอเตอร์ที่จะนำมาขับปั๊มชัก เช่น ชนิดมอเตอร์ ขนาดกำลังมอเตอร์ เป็นต้น
ปั๊มชักจะมีความเร็วรอบเหมาะสม ประมาณ 200-300 รอบ/นาที ดังนั้นมอเตอร์ที่จะนมาขับปั๊มชักนั้นต้องมีการปรับให้รอบเหมาะสมเพื่ออายุการใช้งานและประสิทธภาพสูงสุด ยกตัวอย่างเช่น หากนำ DC MOTOR 12V ซึ่งหมุนที่ประมาณ 1,300 รอบ ( DC MOTOR 24V จะหมุนประมาณ 2560 รอบ) จำเป็นต้องใช้มูเลย์ด้านมอเตอร์ให้เล็กประมาณ เป็น 1:5 เท่า จะให้รอบที่ 260 รอบ ซึ่งจะเป็นค่าที่ปั๊มทำงานได้ที่สุด ปั๊มจะไม่ร้อนมากเกินไปอายุการใช้งานจะทนนานมากขึ้น
ซึ่งในทีนี้จะกล่าวถึงเฉพาะ มอเตอร์กระแสตรง(ดีซี มอเตอร์)เท่านั้น ซึ่งชนิดของมอเตอร์กระแสตรงนั้นโดยที่ใช้กันทั่วไปก็จะมีอยู่ 3 ชนิด คือ ดีซีมอเตอร์แบบมีแปรงถ่าน ดีซีมอเตอร์แบบไร้แปรงถ่าน และยูนิเวอร์แซลมอเตอร์(มีแปรงถ่าน)
1.ดีซีมอเตอร์แบบมีแปรงถ่าน(Brushed DC Motor) เป็นมอเตอร์ที่มีใช้กันมานานพบเห็นได้ทั่วไป ไฟกระแสตรงจากแบตเตอรี่จะไหลเข้าไปแปรงถ่านด้านหนึ่งแล้วไหลเข้าคอมมิวเตเตอร์ซึ่งทำหน้าสวิตซ์ความเร็วสูงทำให้การหมุนของเพลามอเตอร์หมุนได้ราบเรียบจากนั้นจะผ่านขดลวดมอเตอร์ที่อยู่ในเพลาซึ่งเมื่อมีกระแสไหลผ่านจะเกิดขั้วสนามแม่เหล็กจะผลักกับแม่เหล็กถาวรที่ยึดอยู่กับโครงมอเตอร์ ทำให้เพลามอเตอร์หมุนจากนั้นไฟจะผ่านออกแปรงถ่านอีกด้านหนึ่งไปครบวงจรที่ขั้วแบตเตอรี่อีกขั้วหนึ่ง ซึ่งมีข้อดีด้านความทนทานในระดับหนึ่ง โครงสร้างและการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน สามารถใช้งานที่ค่อนข้างสั่นสะเทือนได้ แต่ข้อเสียคือ ประสิทธิภาพที่ได้ไม่เต็มที่เนื่องจากแปรงถ่านและคอมมิวเตเตอร์จะเกิดการสึกหรอเมื่อใช้ผ่านการใช้งานไปเรื่อย ที่ความเร็วรอบสูงจะไม่ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปรงถ่านเมื่อสึกหรอจนใช้งานไม่ได้แล้ว
2.ดีซีมอเตอร์แบบไร้แปรงถ่าน(ฺBLDC:Brushless DC Motor) เป็นมอเตอร์ที่มีหลักการทำงานคล้ายๆกันกับมอเตอร์แปรงถ่าน แต่ด้วยชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่าไม่มีแปรงถ่าน โครงสร้างจึงไม่มีแปรงถ่านเป็นส่วนประกอบ แล้วจะใช้หลักการอะไรในการหมุนละ คำตอบคือ ใช้ระบบซิงโครนัสเคลื่อนที่ไปรอบๆด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยใช้ไฟฟ้ากระแสตรงหมุนเคลื่อนที่โรเตอร์ให้หมุนอยู่ภานในสเตเตอร์แทนแปรงถ่านนั่นเอง ซึ่งส่วนประกอบของมอเตอร์ชนิดนี้จะประกอบด้วย 2 ส่วนหลักๆคือ โรเตอร์ (ส่วนที่หมุน) และ สเตเตอร์(ส่วนที่ยึดอยู่กับที่) ข้อดีคือ ไม่เกิดการสึกหรอ(ไม่มีแปรงถ่าน) ไม่เกิดเสียงดังรบกวนเพราะหมุนเงียบ เมื่อไม่มีแปรงถ่านการทำงานก็ให้ประสิทธิภาพและแรงบิดที่สูง(อายุเฉลี่ยทำงานได้ถึง 10,000 ชั่วโมงและทำงานความเร็วรอบสูง 10,000รอบ/นาทีทั้งสภาวะที่มีโหลดและไม่มีโหลด)อีกทั้งการควบคุมมีความแม่นยำสูง แต่ข้อเสียก็มีเช่นกัน ราคาจะสูงกว่ามอเตอร์แบบแปรงถ่านธรรมดา และเนื่องจากมีระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเกี่ยวข้องดังนั้นการใช้งานผู้ใช้งานต้องพื้นฐานความรู้นิดหน่อย จะได้ใช้ให้เหมาะสมและถูกวิธีเพื่อการใช้งานที่ยืนยาว
3.ยูนิเวอร์แซลมอเตอร์(Universal Motor)หรือมอเตอร์มหัศจรรย์ ซึ่งหากว่ากันตามตรงแล้วถือว่าเป็นมอเตอร์กระแสสบับเฟสเดียว แต่ว่าด้วยโครงสร้างที่พิเศษทีให้สามารถใชได้ทั้งไฟฟ้ากระแสสลับ(AC)และไฟฟ้ากระแสตรง(DC)ตั้งแต่ 12V ขึ้นไปได้ด้วย ความเร็วจะแปรผันตามแรงดันที่ป้อนให้โดยไม่ทำให้มอเตอร์เสียหาย ซึ่งสามารถให้ความเร็วรอบได้ถึง 10,000 รอบ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแรงดันที่ป้อนให้ หากต่อใช้งานกับไฟฟ้ากรแสสลับจะให้รอบที่สูงมากอาจจเกิดอันตรายได้ นิยมนำวงจรลดแรงดัน(ความถี่)มาให้เพื่อควบคุมลดรอบให้ต่ำลงเหมาะสมกับการใช้งาน