ในระบบไฟฟ้าทั่วไปและโซลาร์เซลล์เองก็ดี สายไฟถือว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ การเลือกใช้ขนาดสายไฟให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งสายที่ใช้ในระบบโซลาร์เซลล์นั้นเนื่องจากเป็นระบบไฟกระแสตรง สายไฟที่ใช้จะต่างจากสายไฟทั่วไป เนื่องจากไฟกระแสตรง(DC)นั้นจะวิ่งผ่านบริเวณผิวของเส้นลวดตัวนำ ดังนั้นเพื่อเป็นการลดความสูญเสียในสายส่งและเพิ่มประสิทธิภาพการนำกระแสไฟ DC ให้มากขึ้นจึงออกแบบให้เป็นลวดเส้นเล็กๆหลายๆเส้นมารวมกัน ซึ่งเรียกสายไฟนี้ว่า สาย PV1-F ทำมาจากทองแดงเคลือบดีบุก และหุ้มฉนวน 2 ชั้น ทำให้มีคุณสมบัติทนความร้อนสูง ถูกออกแบบมาใช้งานในระบบโซลาร์เซลล์โดยเฉพาะ
ในระบบโซลาร์เซลล์หากเป็นระบบที่มีกำลังไฟสูงๆหากใช้สายที่มีขนาดไม่เหมาะสม เช่น เล็กเกินไป จะส่งผลให้เกิดความสูญเสียภายในสาย แรงดันตก สะสมความร้อน เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์และระบบได้ ดังนั้นเป็นเรื่องที่ไ่ม่ควรมองข้าม
ขนาดสายไฟที่ใช้ในระบบโซลาร์เซลล์ และ พิกัดการใช้งาน
Type | Cross section (mm2) | Rate voltage (VAC/VDC) | Rate current (A) |
PV-1×1.5mm2 | 1.5 | 1000/1800 | 20A |
PV-1×2.5mm2 | 2.5 | 1000/1800 | 30A |
PV-1×4.0mm2 | 4.0 | 1000/1800 | 50A |
PV-1×6.0mm2 | 6.0 | 1000/1800 | 70A |
PV-1x10mm2 | 10 | 1000/1800 | 95A |
PV-1x16mm2 | 16 | 1000/1800 | 105A |
PV-1x25mm2 | 25 | 1000/1800 | 140A |
PV-1x35mm2 | 35 | 1000/1800 | 170A |
ตัวอย่าง หากติดตั้งแผงขนาด 320W จำนวน 2แผง (กระแสแผงละประมาณ 9A แรงดันแผงละประมาณ 35V) เอา2 แผงมาต่อขนานกัน ซึ่งกระแสเพิ่มเป็น 18A(ทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้น) แรงดันเท่าเดิม ซึ่งอ้างอิงจากตารางขนาดสายไฟเรา สามารถใช้สายไฟขนาดเล็กสุด คือ PV-1×1.5mm2 ได้ซึ่งรองรับกระแสได้ 20A เป็นต้น